วันอังคาร, มีนาคม 19, 2024
หน้าแรกNews“สาธิต” หนุนแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายเด็ก หลังพบวัยโจ๋ขยับกายน้อยกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า เน้น 5 ข้อ หลัก ภายใต้ยุทธศาสตร์เชิงรุก “EMPACT”กระตุ้นเยาวชนกระฉับกระเฉงเพิ่มขึ้น

“สาธิต” หนุนแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายเด็ก หลังพบวัยโจ๋ขยับกายน้อยกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า เน้น 5 ข้อ หลัก ภายใต้ยุทธศาสตร์เชิงรุก “EMPACT”กระตุ้นเยาวชนกระฉับกระเฉงเพิ่มขึ้น

ในการประชุมวิชาการด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย ครั้งที่ 1 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 1 กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานเสวนาและประกาศนโยบายการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในเด็กและเยาวชนไทย ว่า ไทยประกาศใช้แผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พ.ศ. 2561–2573 ครอบคลุมประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 0-24 ปี  สอดคล้องแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ที่มุ่งพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตสู่เป้าหมายหลัก “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” 

“กลุ่มที่น่าห่วงคือ กลุ่มเด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมเนือยนิ่งสูง มีกิจกรรมทางกายต่ำกว่าผู้ใหญ่ สะท้อนแนวโน้มปัญหาด้านการสาธารณสุขในการจัดการกับโรคไม่ติดต่อ(NCDs)ในอนาคต ทาง สธ.เราเน้นส่งเสริมป้องกัน จึงสานพลัง สสส. และภาคี เร่งวางรากฐานการส่งเสริมกิจกรรมทางกายเด็กและเยาวชนตั้งแต่ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด พร้อมขับเคลื่อนแคมเปญเด็กไทยเล่นเปลี่ยนโลก เพื่อพัฒนาทักษะ Play Worker และสร้างพื้นที่ต้นแบบเด็กไทยเล่นเปลี่ยนโลกที่เหมาะสมตามบริบท สร้างเยาวชนให้มีคุณภาพทั้งเรื่องเล่น การกินอาหารที่มีคุณภาพ และการเรียน จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ทุกอย่าง”

 เวทีนี้จะทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวกที่นำไปสู่การริเริ่มให้คนหันมาสนใจออกกำลังกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชน ผมมั่นใจว่าจะทำให้เด็กไทยมีสุขภาพที่ดี มีสมองที่ปลอดโปร่งในการเรียนรู้ทักษะ พวกเขาจะเป็นอนาคตที่ดีของสังคมไทย อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันส่งเสริม เรากำลังร่วมมือช่วยกันสร้างชาติครับ” ดร.สาธิตกล่าว

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจากงานวิจัยของเราชี้ให้เห็นว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ใน พ.ศ. 2563 ส่งผลให้เด็กและเยาวชนมีระดับกิจกรรมทางกายที่ลดลง และน้อยกว่ากลุ่มวัยอื่นถึง 2 เท่า คือ 17.7% เมื่อเทียบกับวัยทำงานอยู่ที่ 54.7% วัยสูงอายุอยู่ที่ 52.9% สสส. จึงได้สานพลัง กับศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม  มหาวิทยาลัยมหิดล และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาแผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กและเยาวชน (พ.ศ. 2566–2573) ภายใต้หลักการพื้นฐาน 5 ข้อ 1.ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ 2.นำไปปฏิบัติได้จริง 3.ความเท่าเทียม เสมอภาค 4.การมีส่วนร่วม 5.ความยั่งยืน เพื่อใช้เป็นแนวทางดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ “เด็กและเยาวชนไทยมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงเพื่อสุขภาวะที่ดี

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยถึงสถานการณ์สังคมที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีที่เข้ามาแทน จึงควรมีการกระตุ้นให้เด็ก มีการขยับ และได้ออกกำลังกายมากขึ้น รวมทั้งมีนโยบายในแต่ละกระทรวง ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะกระตุ้นให้เด็กมีการขยับมากขึ้น

“ปัจจัยในการทำงานกับเด็กแต่ละช่วงวัยจะไม่เหมือนกัน เราจะมีการทำแผนปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายในกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง มีครอบครัว ชุมชน โรงเรียน มาหนุนเสริม มีการออกแบบชวนทำกิจกรรมพัฒนาการสมวัย วางแผนให้สอดคล้องกับเป้าหมายชาติ ถ้าผลในระยะยาวคือ เด็กไม่อ้วน ไม่เป็นโรค สุขภาพแข็งแรง เป็นอนาคตที่ดีของชาติ นี่คือเป้าหมายสูงสุด” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

ในส่วนของ แผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กฯ โดย ดร.อารีกุล อมรศรีวัฒนกุล อาจารย์ประจำวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล มี 6 ประเด็นยุทธศาสตร์ ชื่อว่า “EMPACT” 1.E : Educational settingส่งเสริมกิจกรรมทางกายในสถานศึกษา 2.M : Manage (family) การมีส่วนร่วมและการสนับสนุนของครอบครัว 3.P : Policy สนับสนุนด้วยนโยบาย 4.A : Academic พัฒนาศักยภาพงานวิจัยและการส่งเสริมกิจกรรมทางกายเครือข่ายภาควิชาการและประชาสังคม 5.C : Community การสนับสนุนพื้นที่จัดกิจกรรมจากชุมชน/สังคม 6.T : Technology เทคโนโลยีและการสื่อสารสาธารณะ ซึ่งเป็นครั้งแรกในไทยที่จะมีการร่วมพลังจากทุกภาคส่วนโดย รศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย พร้อมร่วมสนับสนุนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ วิจัยนวัตกรรม และต้นทุนการขยายเครือข่ายโรงเรียนฉลาดเล่น ไปพร้อมกับกองกิจกรรมทางกาย กรมอนามัย และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมยกระดับการมีกิจกรรมทางกายในเด็กและเยาวชน ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต เพื่อให้มีสุขภาวะที่ดี โดยการจัดงานในครั้งนี้ ยังมีการเปิดตัวพันธมิตรขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กและเยาวชนไทยด้วย

 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular

Recent Comments