วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกNewsรมว.พม. แถลงผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 22 ก่อนเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 35

รมว.พม. แถลงผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 22 ก่อนเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 35

วันนี้ (2 พ.ย. 62) เวลา 12.00 น. ที่ห้อง Royal Orchid Ballroom 1 โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ในฐานะหัวหน้าคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน เป็นประธานการแถลงข่าวสรุปผลการจัดประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนครั้งที่ 22 (22nd Meeting of the ASEAN Socio-Cultural Commนnity (ASCC) Council Meeting) เพื่อนำเสนอในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤศจิกายน 2562 ณ ศูนย์แสดงสินค้า และ การประชุม อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

นายจุติ กล่าวว่า ในปี 2562 ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน ได้กำหนดจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Sนากาit) ครั้งที่ 34 และครั้งที่ 35 ซึ่งมีผู้นำของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมประชุม ยังรวมถึงการจัดประชุมและการจัดกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนจำนวน 284 รายการ ตลอดปี 2562 สำหรับการดำเนินงานของประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของประเทศไทย ในปี 2562 ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานประสานงานหลัก ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการภายใต้แนวคิดหลักการเป็นประธานอาเซียนของประเทศไทยดังกล่าว เป็นไปตามกรอบการดำเนินงาน “3/4/14” นั้นซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปด้วยด ีและประเทศไทยสามารถผลักดันแผนงานหลักประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนในฐานะประธานอาเซียนในปี 2562 (ASCC Priority Areas 2019) ในทุกด้านโดยสามารถสรุปโดยใช้อักษรภาษาอังกฤษ “4CSELV” ดังต่อไปนี้

นายจุติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ C ตัวแรกคือ Children (เด็ก) ในปีนี้เป็นโอกาสพิเศษที่มีการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the its of the Child: UNCRC) ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียน ทุกประเทศเป็นรัฐภาคีอนุสัญญาฉบับดังกล่าวทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 จะมีเอกสารผลลัพธ์สำคัญที่เกี่ยวกับเด็กโดยตรง จำนวน 4 ฉบับ ซึ่งเป็นเอกสารเพื่อการรับรอง จำนวน 3 ฉบับ ดังนี้ 1) ปฏิญญาว่าด้วยการคุ้มครองเด็กจากการแสวงหาผลประโยชน์ในสื่อออนไลน์ในอาเซียน 2) ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิของเด็กในบริบทของการโยกย้ายถิ่นฐาน 3) แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการยืนยันคำมั่นในความก้าวหน้าการดำเนินงานสิทธิเด็กในอาเซียน และเอกสารเพื่อรับทราบจำนวน 1 ฉบับ ได้แก่ แนวทางและกระบวนการในการตอบสนองต่อความต้องการของเหยื่อการค้ามนุษย์ตามอนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรนและเด็ก C ตัวที่สองคือ Climate Sustainability (ความยั่งยืนด้านสภาพภูมิอากาศ) ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ผู้นำอาเซียนได้รับรองปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน และได้รับทราบกรอบการปฏิบัติงานอาเซียนว่าด้วยขยะทะเลและในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 นี้ จะมีการรับรองแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 25 C ตัวที่สามคือ Culture (วัฒนธรรม) ซึ่งผู้นำอาเซียนได้รับรองแถลงการณ์ของผู้นำอาเซียนเกี่ยวกับ “ปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน 2562” ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา C ตัวที่สี่คือ Civil Service (ราชการพลเรือน) มีเอกสารผลลัพธ์สำคัญที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ถ้อยแถลงอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการเร่งยกระดับภาคราชการพลเรือนในยุคดิจิทัล ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ E คือ Education (การศึกษา) ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ผู้นำอาเซียนจะมีการรับรองปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางการศึกษาเพื่อบรรลุเป้าหมายตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนค.ศ. 2030 และจะรับทราบแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เด็กและเยาวชนที่ตกหล่น L คือ Labour (แรงงาน) ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่ผ่านมาผู้นำอาเซียนได้รับทราบเอกสารจำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ถ้อยแถลงรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนว่าด้วยเรื่องอนาคตของงาน : การส่งเสริมเทคโนโลยีและการเจริญเติบโตแบบมีส่วนร่วมและแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนว่าด้วยข้อริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อการประชุมใหญ่แรงงานระหว่างประเทศสมัยที่ 108 และ V คือVaccine (วัคซีน) ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ผู้นำอาเซียนให้ความเห็นชอบเอกสารผลลัพธ์สำคัญ คือปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยความมั่นคงและการพึ่งตนเองด้านวัคซีนในภูมิภาคอาเซียน

“ทั้งนี้ การเป็นประธานอาเซียนและการจัดประชุมอาเซียนที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตลอดปี 2562 ก่อเกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยและคนไทยในหลายด้าน สำหรับในมิติด้านสังคมและวัฒนธรรม ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์โดยตรงด้านรายได้และการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากการที่ผู้นำประเทศคณะผู้แทนสื่อสารมวลชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากประเทศสมาชิกอาเซียนเดินทางมายังประเทศไทย อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการเป็นประชาคมอาเซียนผ่านการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆนอกจากนี้ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือด้านต่างๆ อาทิ ด้านสิทธิสตรีและสิทธิเด็กด้านสิ่งแวดล้อมด้านศิลปะและวัฒนธรรมด้านราชการพลเรือนด้านการศึกษาด้านแรงงานและด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนาอันเป็นผลจากนำเอกสารผลลัพธ์สำคัญ ซึ่งผู้นำอาเซียนให้การรับรองและรับทราบในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” นายจุติกล่าวในตอนท้าย

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular

Recent Comments