
นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ ‘มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร’ ลูกชายคนเดียวของครอบครัว ที่เป็นของขวัญล้ำค่าของคุณพ่อ คุณแม่ อย่างที่ทราบกันว่า หนุ่มมีนเป็นเด็กหลอดแก้ว จากการที่ครอบครัวพยายามเลือกพึ่งเทคโนโลยีในการมีลูก ซึ่งผ่านการผิดหวังมาหลายครั้งกว่าจะมีลูกชายคนนี้ ทำให้มีนรู้ซึ้งถึงชีวิตที่มีค่า กว่าจะเกิด และเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะนึกถึงครอบครัวอยู่เสมอว่า กว่าจะมีลูกได้ไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมกับคำที่อยู่ในใจเสมอว่า เกิดมายาก ครอบครัวต้องทุ่มหมดหน้าตักเพื่อให้มีลูก ทำให้มีนดูแลตัวเองดีอยู่เสมอ และไม่กล้าใช้ชีวิตที่เสี่ยงหรืออันตราย
โดยหนุ่มมีน เติบโตมาด้วยความรักอย่างดี แต่ด้วยปัจจัยหลายสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ อย่างการป่วยหรือการแพ้ ซึ่งมีนเคยต้องเผชิญกับการแพ้สิ่งต่าง ๆ มากถึง 40-50 ชนิด ทำให้ต้องคอยระวังตัวอยู่เสมอ รวมถึงในตอนนี้สิ่งที่เลี่ยงได้ยากอย่างฝุ่น ควันบุหรี่มือสอง ไหนจะควันบุหรี่ไฟฟ้าที่คนสูบกันมากขึ้นในสังคม
“ผมชอบเป็นผื่นแพ้ ไม่รู้เลยว่าเกิดจากอะไร หมอบอกว่าแล้วแต่ช่วง บางช่วงก็อาจจะเป็นหนัก บางช่วงถ้าเราแบบพักผ่อนดี สุขภาพแข็งแรงก็อาจจะเป็นน้อย ผมคิดว่าการที่เรารู้ว่าเราแพ้อะไร ช่วยให้เราดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ไม่ได้ทําให้เรารู้สึกว่าห้ามเข้าใกล้ แต่ว่าจะทําให้เราช่วยเซฟตัวเองได้ แต่อีกอย่างที่ผมคิดว่า ทุกวันนี้เจอเยอะและเลี่ยงไม่ได้ คือ ฝุ่น ไหนจะ PM 2.5 รวมถึงควันจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ที่คนสูบกันง่ายมาก จากแต่ก่อนพื้นที่สูบบุหรี่จะชัดเจน แต่สำหรับปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าสูบได้ง่ายเกินไป อยากเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ว่า ไม่ควรสูบเพราะว่ามีคนที่ไม่ได้อยากรับควัน ไม่ได้อยากรับกลิ่น ไม่ได้อยากต้องเดินไปแล้วเจอตามที่สาธารณะ แล้วก็หลีกเลี่ยงไม่ได้”
และอีกหนึ่งสิ่งที่หนุ่มมีนอยากบอกถึงภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ว่าการที่สูบเข้าไปโดยมีสารเคมี รวมถึงกลิ่นต่าง ๆ ซึ่งไม่ทราบที่มา อาจมีผลกับสุขภาพในอนาคต “ผมรู้สึกว่าช่วงแรกคนไม่รู้ คนก็ใช้ชีวิตกันอย่างแบบไม่รู้ การได้ลองโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสารอะไรบ้าง ควันที่ออกมาเกิดจากอะไรก็ไม่รู้ กลิ่นที่ปรุงแต่งเข้าไปมาจากอะไรก็ไม่รู้ เหมือนเรา Random อันนึงขึ้นมาแล้วก็สูบเข้าไป เวลาทําอะไร เราควรรู้สิ่งต่าง ๆ เหมือนเรารู้ตัวเองว่าเราแพ้สารชนิดไหนบ้าง แพ้อะไรบ้าง แล้วเราก็ไม่ควรเข้าใกล้ แต่บุหรี่ไฟฟ้าเราไม่รู้เลยว่าสารที่อยู่ในนั้นคืออะไร เรารู้แค่ว่าควันที่ออกมามันมีกลิ่นผลไม้ มีกลิ่นอื่น ๆ แต่ว่าสารที่มันเข้าไปในร่างกายเราแล้วมันคืออะไร”
โดยประสบการณ์ตรงของหนุ่มมีนที่ได้รับควันบุหรี่และควันบุหรี่ไฟฟ้า จากการใช้ชีวิตร่วมกับกลุ่มเพื่อน ขณะไปออกทริปดำน้ำด้วยกัน เมื่อรับควันบุหรี่มือสองและไปดำน้ำทำให้รู้ทันทีมีว่าร่างกายตอบสนองไม่เหมือนเดิม
“จากประสบการณ์ของผมเอง ผมเป็นคนที่เล่นกีฬาหลายอย่าง ที่ต้องใช้การหายใจ ก็คือ ดําน้ำ เวลาออกทริปเราต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือร่วมกับเพื่อน ๆ บางทีบนเรือก็มีคนสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า ควันก็จะลอยไป ลอยมา อยู่แถวนั้น เราที่เป็นคนไม่ได้สูบ แต่ว่านั่งอยู่ใกล้ ๆ ก็ได้รับอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากที่เรารับควัน สำหรับผมก็ไม่แน่ใจว่าช่วงที่เราต้องลงไปดําน้ํา เราก็รู้สึกว่ามีผลกับการหายใจบ้าง ปกติเรารู้สึกว่าเราหายใจได้ดี หายใจได้เคลียร์กว่านี้ กลายเป็นรู้สึกว่ามีความแสบคอ ติดขัด อาจจะเป็นเพราะเราไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน ตอนขึ้นมาจากน้ำ เราก็ไปถามคนที่เขาสูบว่า เป็นไหม เรารู้สึกว่าเราเป็น ซึ่งเขาก็เป็นเหมือนกัน เขาเป็นหนักกว่าเราด้วย เขารู้สึกว่าเขาหายใจยาก หลังจากนั้นอีกปีนึงผมไปดําน้ำกับเขาเหมือนเดิมแล้ว เขาก็ไม่ได้สูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว และเขาก็บอกว่า หายใจได้ดีขึ้น ดําได้นานขึ้น อยู่กับอากาศได้ดีขึ้น และอาจจะเพราะเขาออกกําลังกายด้วย”
และเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ซึ่งทางองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดขึ้นมา โดยตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความอันตรายของบุหรี่ ซึ่งมีนขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า เริ่มลดตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเองและคนรอบข้าง
“ตอนเด็กผมเคยวาดรูปกากบาททับบุหรี่เพื่อรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ และเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้ อยากจะเชิญชวนทุกคนมาเริ่มงดสูบบุหรี่กันนะครับ ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ก็ได้ครับ เราเข้าใจ แต่เราก็อยากให้ทุกคนนึกถึงสุขภาพตัวเอง คนรอบข้าง และคนในครอบครัวของเรา อยากให้เป็นอีกหนึ่งวันที่เป็นจุดเริ่มต้นของสังคมที่ดี แล้วก็ปลอดภัยครับ”
เลิกบุหรี่ดีเสมอ ทั้งกับตัวเองและคนรอบข้าง เช่นเดียวกับหนุ่มมีนได้รับความรู้สึกดี ๆ เมื่อคุณพ่อเลิกบุหรี่เพื่อลูก ทำให้มีนดีใจอย่างมากที่คุณพ่อทำเพื่อตัวเองและครอบครัว “เมื่อหลาย 10 ปีที่แล้ว ผมพูดกับพ่อทุกวันว่าให้เลิกสูบบุหรี่นะ ใช้เวลาเป็นปี จนวันหนึ่งพ่อเดินมาบอกผมว่าจะเลิกสูบบุหรี่แล้วจริงๆ และทำได้มาเป็น 10 ปี แล้ว ผมขอบคุณคุณพ่อมากที่เป็นแบบอย่างให้เรา ส่วนตัวผมเองก็ไม่ยุ่งเกี่ยวอยู่แล้วครับ เพราะรู้ถึงพิษภัยที่มีผลกับตัวเราเอง แล้วก็คนรอบข้างด้วย”
และสิ่งที่มีนจำขึ้นใจ และนำมาใช้ในชีวิตอยู่ตลอดเพื่อรักษาสุขภาพที่ดี จากคำที่เคยมีคนบอกไว้ว่า “เราไม่รู้หรอกว่าชีวิตเราจะเป็นยังไง เราเซฟตัวเราไว้ก่อนดีกว่า อย่างน้อยเราไม่เอาตัวเองไปจุดเสี่ยง แล้วใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ เพราะว่าชีวิตเรามีแค่ครั้งเดียว ปอดมีแค่ปอดเดียว ถ้าผิดพลาดขึ้นมา ถ้าเกิด accident ที่มันไม่ดีขึ้นมา มันอาจจะทําให้ชีวิตหลังจากนี้ยากขึ้น หรือว่าอาจจะใช้งานไม่ได้เลยก็ได้ เพราะฉะนั้นเซฟไว้ก่อนดีกว่าครับ”