กรุงเทพ: โรงพยาบาล S Spine & Joint โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อแห่งแรก แห่งเดียวในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2560 ภายใต้วิสัยทัศน์ “Bring Back Quality Time” ของผู้บริหารที่ต้องการคืนช่วงเวลา แห่งความสุข ให้กับชีวิตคุณ (คนไข้) ทำให้นวัตกรรมการรักษาของโรงพยาบาล ฯ แห่งนี้ มุ่งเน้นการรักษาที่ต้นเหตุเพื่อให้หายอย่างยั่งยืน จนสามารถสร้างชื่อเสียง และได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มากกว่า 100,000 ราย ที่เข้ามาใช้บริการรักษา

โดยเรื่องนี้ นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้ก่อตั้ง โรงพยาบาล S Spine & Joint เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ ทางโรงพยาบาล จึงได้มีการวางกลยุทธ์และการตลาดเพื่อจะสร้างการรับรู้ใหม่ให้กับผู้บริโภคถึงการเป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นผู้นำเฉพาะทางด้านการรักษากระดูกสันหลังและข้อ มากขึ้น เพื่อจะยกระดับการดูแลขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการเปิด “โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อครบวงจร“ ขึ้นมา ที่มีความพร้อมมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งในเรื่องของบุคลากรทางการแพทย์ และนวัตกรรมสมัยใหม่ ที่พร้อมเข้ามาช่วยดูแลรักษาทุกคุณภาพชีวิตของคนไข้ให้ดีรอบด้านยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกๆ คนได้กลับมามีช่วงเวลาแห่งความสุขอีกครั้ง

เพราะภายใต้วิสัยทัศน์ “Bring Back Quality Time” หรือ คืนช่วงเวลา แห่งความสุข ให้กับชีวิตคุณ ของการบริหารงานโรงพยาบาลแห่งนี้ เราจึงความเชื่อว่าโลกใบนี้ เวลาและสุขภาพเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด ซึ่งปัญหาสุขภาพที่มีต่อกระดูกสันหลังและข้อ ไม่เพียงแต่ทำลายสุขภาพกาย แต่ยังกระทบต่อช่วงเวลาอันมีค่า เราจึงไม่ต้องการให้ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น มาช่วงชิงเวลาแห่งความสุขของทุกคนไป เราเชื่อว่าทุกคนสามารถกลับมามีชีวิตที่ดีได้

ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน โรงพยาบาล S Spine & Joint ยังมุ่งมั่นนำเสนอความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับการดูแลด้วยหัวใจ ผ่านการรักษาที่ต้นเหตุมากกว่าการรักษาตามอาการ เพื่อให้หายขาดจากอาการปวดอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อการวินิจฉัย Standing MRI ซึ่งเป็นเครื่องเดียวในประเทศไทย ที่สามารถทำ MRI ในท่ายืนเพื่อการวินิจฉัยในรายที่ยังหาสาเหตุของโรคไม่เจอ
เนื่องจากการทำ MRI ท่ายืน จะทำให้แรงกดเหมือนตอนนั่งทำให้วินิจฉัยได้แม่นยำกว่า ประกอบกับยังมีเครื่อง MRI รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ภาพคมชัดเพราะใช้โปรแกรม AI ช่วยวางแผนการจัดท่าผู้ป่วย เพื่อให้ภาพที่ออกมาตรงกับรอยโรคที่สุด และเห็นผลการวินิจฉัยดีที่สุด รวมถึงยังมีเครื่อง x ray ชนิดพิเศษ ที่สามารถตรวจหาองศาของการคดของกระดูก เพื่อช่วยให้คุณหมอสามารถปรับการรักษาที่เหมาะสมได้ดี

นอกจากนี้ทางโรงพยาบาล ยังนำเทคโนโลยีการรักษากระดูกสันหลัง โดยการทำแผลใหญ่ให้เป็นแผลเล็ก ด้วยวิธีการส่องกล้อง Endoscope ทำให้แผลมีขนาดน้อยกว่า 0.5 มิลลิเมตร แต่สามารถมองเห็นชัดเหมือนตาเปล่า (เหมือนเอาตาส่องในรูกุญแจ และสามารถมองเห็นในมุมกว้างได้) ทำให้เห็นการรักษาชัดเจนกว่า ปลอดภัยกว่า ข้อแทรกซ้อนน้อยกว่า เสียเลือดน้อยกว่า และเสี่ยงจากการติดเชื้อน้อยกว่า
ขณะเดียวกันยังมีบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะด้านเรื่องนี้มาดูแล เนื่องจาก S Spine & Joint เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ จึงต้องมีความแตกต่างจากโรงพยาบาลทั่วไป ในเรื่องของการรักษาโรคเชิงลึก ดังนั้นไม่ใช่แค่เรื่องการมีนวัตกรรมเครื่องมือทันสมัยอย่างเดียว บุคลากรก็ต้องถูกฝึกฝนให้มีความชำนาญมากกว่าบุคลากรปกติ เช่น ทีมกายภาพ พยาบาลที่ให้การรักษา พยาบาลห้องผ่าตัดล้วนต้องมีความรู้เชิงลึก บางครั้งต้องไปฝึกอบรมที่ต่างประเทศ เพื่อจะสามารถใช้เครื่องมือได้และมีความรู้ที่ถูกต้อง เพราะยังมีหลายเรื่องที่คนไทยมักเข้าใจผิด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งนี้ มากกว่า 100,000 ราย

ทั้งหมดนี้ จึงทำโรงพยาบาล S Spine & Joint มีความพร้อมอย่างมากในการเปิด “โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อครบวงจร” เพื่อยกระดับความเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อครบวงจร ขึ้นมา เพื่อให้แพทย์เฉพาะทางสามารถใช้ความรู้ที่เรียนมาช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ เพื่อทำให้สังคมไทยและผู้ป่วยต่างชาติ ได้รับการรักษาที่ดีขึ้นกว่าเดิม ประกอบกับความที่ประเทศไทยเป็น Medical Hub ของโลก ทำให้แต่ละโรงพยาบาลเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ มากขึ้น รวมถึง “โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อครบวงจร“ ของโรงพยาบาล S Spine & Joint โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อแห่งแรก แห่งเดียวในประเทศไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.s-spineandjointhospital.com/about เบอร์โทร 02 034 0808

